MJU RADIO FM 95.50 MHz
สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้ : วิทยุบริการสาธารณะ

วันนี้ (25 ก.ย. 67) ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมหารือร่วมกับ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินหลังระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายต่อประชาชนที่มีปัญหาทางสุขภาพทั้งผู้ป่วยติดเตียง คนชรา เด็ก และสตรีมีครรภ์ ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง
.
โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินไว้คอยบริการให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยฉุกเฉิน จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลแม่และเด็ก โรงพยาบาลสวนปรุง และโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ ซึ่งประชาชนสามารถขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนทางด้านสุขภาพได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 06-5472-4300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้เสริมทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในโซนน้ำท่วมกรณีมีประชาชนเจ็บป่วยอีก จำนวน 3 จุดได้แก่ พุทธสถานเชียงใหม่ โรงเรียนพิมานเด็กเชียงใหม่ และวัดท่าสะต๋อย
.
ซึ่งล่าสุดทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้สำรวจจำนวนผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในพื้นโซน 1-6 มีทั้งหมดจำนวน 78 คน ซึ่งมีผู้ที่มีความประสงค์อยากย้ายไปพักพิงข้างนอก จำนวน 6 คน และมีจำนวน 2 คน ไม่มีที่ไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่จึงได้พาตัวไปพักอาศัยยัง ชั้น 3 อาคารโรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่แล้วเรียบร้อย
.
ทั้งนี้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนพิมานเด็กเชียงใหม่ และแขวงกาวิละ เพื่อตรวจเยี่ยมจุดให้บริการทางการแพทย์ประชาชน ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าทุกหน่วยมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยปกติ และผู้ป่วยฉุกเฉิน พร้อมกับได้เตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงเรือ รถกู้ชีพกู้ภัย สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีมีเหตุฉุกเฉินเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที
.
//////////////
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
25 กันยายน 2567

ปรับปรุงข้อมูล : 25/9/2567 20:50:18     ที่มา : MJU RADIO FM 95.50 MHz     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 209

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานรำลึกถึง ศ.ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ จัดงานวันวิภาต บุญศรี วังซ้าย โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี นำทีมคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ตัวแทนศิษย์เก่าแม่โจ้รุ่นต่างๆ และนักศึกษา กล่าวสดุดี วางพวงมาลา เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที รำลึกถึงคุณความดีของ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรกของแม่โจ้ ณ ณ ลานอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 1 เป็นชาวจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2459 หลังจากสอบไล่ได้มัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ และย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อปี 2477 ซึ่งถือเป็นรุ่น 1 รุ่นบุกเบิกและสร้างแม่โจ้ เมื่อจบจากแม่โจ้ท่านสอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์ จนจบปริญญาตรี ปี พ.ศ. 2484 จึงกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่แม่โจ้ ตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนาน 6 ปี จากนั้นท่านไปลงสมัครผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง พอถึงปี พ.ศ. 2497 ท่านกลับเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ใหญ่ชั้นเอกของโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ จวบจนกระทั่งได้เป็นอธิการบดีคนแรกของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ถึง 2 สมัยท่านเป็นครูผู้สร้างและพัฒนาแม่โจ้ให้เจริญ เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย ปลดแอกข้อจำกัดของวงการอาชีวเกษตรในอดีต บุคคลผู้เป็นต้นแบบนักต่อสู้ เอาชนะอุปสรรค คนต้นแบบลูกแม่โจ้ ผู้ให้อมตะโอวาท “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” คติพจน์ประจำใจของลูกแม่โจ้จวบจนปัจจุบัน
30 ตุลาคม 2568     |      1
ประธานมูลนิธิ People Foundation และคณะกรรมการ เข้าพบอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพื่อหารือและลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบัน
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี พร้อมด้วย คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ , รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ , รองคณบดีคณะศิลปศาสตร์ , รองคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Chuang Yoo-seok ประธานกรรมการ และคณะผู้แทนมูลนิธิ People Foundation ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสที่มาเยือนมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพื่อหารือและลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ในการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม ภาษาเกาหลี
30 ตุลาคม 2568     |      1
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแถลงข่าวการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน ระหว่าง วันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันแถลงถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมกับยังหวัดเชียงใหม่ เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่สำหรับการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน เพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเปิดโอกาสให้เยาวชน ประชาชน นักวิชาการ ภาคเอกชน และผู้กำหนดนโยบายได้ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของทรัพยากรไทย เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ตลอดจนเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ครบรอบ 90 ปี อันเป็นหมุดหมายแห่งความภาคภูมิใจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในงาน จะมีการจัดนิทรรศการพิเศษ "หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน อพ.สธ. มหาวิทยาลัยแม่โจ้" ภายใต้แนวคิด "รากแก้วมั่นคงมั่งคั่ง" สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยด้านการเกษตรที่เก่าแก่และมั่นคงของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 จากโรงเรียนครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ จนพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปัจจุบันอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ "งานเกษตรแม่โจ้" มหกรรมต้นไม้ ผลิตภัณฑ์เกษตร สินค้าชุมชน ร้านอาหาร และการแสดงศิลปวัฒนธรรม จากสถานศึกษาและศิลปินรับเชิญ ตลอด 7 วัน 7 คืน นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการและนิทรรศการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 98 โรงเรียน การประชุมและนิทรรศการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น 38 หน่วยงาน การจัดนิทรรศการหน่วยงานสนองพระราชดำริฯ 126 หน่วยงาน การประชุมชมรมคณะปฏิบัติงานวิทยาการ อพ.สธ. และแปลงสาธิตและฐานการเรียนรู้ด้านการเกษตรด้าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธานในโครงการพระราชดำริต่าง ๆ โดยเฉพาะ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนแนวทาง "คาร์บอนคลีนอย่างยั่งยืน" ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพและความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะเข้ามาเยือนในทุกด้าน ทั้งด้านทรัพยากร การคมนาคม โรงแรม/ห้องพัก สถานที่จัดงานต่างๆ ที่สำคัญคือประชาชนมีมิตรไมตรีที่ดีและพร้อมต้อนรับผู้คนที่จะเข้ามาเยือน จึงขอให้มั่นใจว่าทุกกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ล้วนเกิดจากความตั้งใจของทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจและถือเป็นโอกาสอันที่ดีจะได้โชว์ความสำเร็จให้กับผู้คนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางด้วยข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ภาพ : เครือข่าาย MJUConnect
16 ตุลาคม 2568     |      16
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ กรมสวัสดิกาารและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดพิธีลงนามบันทึดความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาชีพ ด้านแรงงาน ด้านความปลอดภัยในการทำงาน และด้านสารสนเทศ
วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่ โรงแรม เอส ดี อเวนิว บางพลัด กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึดความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เป็นผู้แทนลงนามทั้งสองฝ่าย และมี นายศักดิ์ศิลป์ ตุลาธร รองอธิบดี กสร. รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยยศ สัมฤทธิ์สกุล รองอธิการบดี , รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ ชัยพิบูลย์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร , นายทวีสิทธิ์ บุญธรรม ผู้บริหารกองความปลอดภัยแรงงาน กสร. ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน รวมทั้งมีคณะผู้บริหาร บุคลากรกร ทั้ง 2 หน่วยงานเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี . ทั้งนี้ การลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิชาการ วิชาชีพ แรงงาน ความปลอดภัย และสารสนเทศ พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่สนับสนุนงานวิจัยและบริการวิชาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสภาพการทำงานของแรงงานและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศในการบริหารจัดการและคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน
10 ตุลาคม 2568     |      20