MJU RADIO FM 95.50 MHz
สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้ : วิทยุบริการสาธารณะ

                                   

             เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559  ศูนย์วิจัยและพัฒนาไส้เดือนดิน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดโครงการพิธีลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการจัดการโรงขยะขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนการผลิตอาหารระบบอินทรีย์ โดยการนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริพร กีรติการกุล รองอธิการบดีกล่าวต้อนรับและเปิดโครงการความร่วมมือในครั้งนี้  นอกจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพงษ์ เลิศทัศนีย์ ที่ปรึกษาโครงการเครือข่ายสวทช. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พาวิน มะโนชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายขวัญชัย สกุลทอง ผู้ประสานงานโครงการ ร่วมเป็นสักขีพยานอีกด้วย  สำหรับการจัดพิธีความร่วมมือครั้งนี้นั้น รองศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช  หัวหน้าโครงการเปิดเผยจากสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและชุมชนเมือง ปัญหาขยะมูลฝอยยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ แนวโน้มอัตราการเกิดขยะมูลฝอยเฉลี่ยต่อคนต่อวันเพิ่มสูงขึ้นจาก 1.04 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ในปี 2553  เป็น 1.11 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ในปี 2557 สถานที่กำจัดขยะแบบถูกต้องตามหลักวิชาการมีเพียงร้อยละ 19 และการนำมูลฝอยกลับไปใช้ประโยชน์เพียงร้อยละ 18ทำให้มีปริมาณขยะสะสมตกค้างเพิ่มขึ้นถึง 19.9 ล้านตันในปี 2556 ของเสียอันตรายในปี 2557 มีประมาณ 2.69 ล้านตัน โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์แนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในอนาคตอาจต้องประสบปัญหาการกำจัดซากของเสียเหล่านี้ หากภาครัฐไม่มีมาตรการหรือมีกฎหมายควบคุมการรีไซเคิลขยะอย่างครบวงจร ขณะที่การจัดการของเสียอันตรายจากภาคอุตสาหกรรมสามารถจัดการได้ประมาณร้อยละ 70 โดยภาคอุตสาหกรรมมีการนำของเสียอันตรายกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่มากขึ้น แต่ยังพบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนในการกำจัดสูง

                 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีองค์ความรู้และความพร้อมในการดำเนินการตามกรอบแนวทางการพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) โดยมีโรงปุ๋ยอินทรีย์ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพรองรับการบริหารจัดการขยะตามกรอบการพัฒนาดังกล่าว เพื่อเร่งกำจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสมในสถานที่กำจัดในเขตเทศบาลต่างๆ โดยการทำงานบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการขยะ เพื่อนำมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้จะใช้ส่งเสริมการผลิตพืชในระบบอินทรีย์อีกประการหนึ่ง ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการบริหารจัดการขยะมูลฝอยที่ยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกและถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการขยะอินทรีย์ในครัวเรือนด้วยไส้เดือนดินให้แก่ประชาชนในพื้นที่ดำเนินงานเป้าหมายต่อไป

                 สำหรับการลงนามความร่วมมือประกอบไปด้วยหน่วยงานเทศบาลและองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีกิจกรรมความร่วมในการ จัดสร้างโรงกำจัดขยะอินทรีย์ด้วยไส้เดือนดินขนาด 100 ตารางโดยทางเทศบาลลงทุนเองทางโครงการจะสนับสนุนวัสดุที่ใช้ในการเลี้ยง ได้แก่ สายพันธุ์ไส้เดือน มูลวัว และดินดำ  นอกจากนั้นทางโครงการจะจัดฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ของเทศบาล ประชาชน ผู้สนใจ ในหน่วยงานของเทศบาลเป้าหมายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แห่ง ๆ ละ 1 รอบ (100 คน)    จัดขึ้น  ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้  สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยแม่โจ จังหวัดเชียงใหม่

ปรับปรุงข้อมูล : 17/12/2559 18:04:50     ที่มา : MJU RADIO FM 95.50 MHz     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 248

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยแม่โจ้เข้าร่วมเปิดตัวผู้เข้าร่วมโครงการ University Venture Creation Program (UVC Program) ในงาน Thai-Bispa Day 2025
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร นำโดย ดร.กัลย กัลยาณมิตร ผู้อำนวยการ และทีมพนักงานอุทยานฯ เข้าร่วมเปิดตัวผู้เข้าร่วมโครงการ University Venture Creation Program (UVC Program) ในงาน Thai-Bispa Day 2025 ทั้งนี้ UVC Program เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยไทยสามารถพัฒนากลไกการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ผ่านการสร้าง spin-off ที่มีศักยภาพในการเติบโตเป็น regional startup รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยในโปรแกรม เสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ภาพ : งานประสานงาน (กรุงเทพฯ) กองกลาง
31 ตุลาคม 2568     |      14152
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานรำลึกถึง ศ.ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรก คนต้นแบบลูกแม่โจ้
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ จัดงานวันวิภาต บุญศรี วังซ้าย โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี นำทีมคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ตัวแทนศิษย์เก่าแม่โจ้รุ่นต่างๆ และนักศึกษา กล่าวสดุดี วางพวงมาลา เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที รำลึกถึงคุณความดีของ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย อธิการบดีคนแรกของแม่โจ้ ณ ณ ลานอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 1 เป็นชาวจังหวัดแพร่ เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2459 หลังจากสอบไล่ได้มัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่ ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ และย้ายมาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เมื่อปี 2477 ซึ่งถือเป็นรุ่น 1 รุ่นบุกเบิกและสร้างแม่โจ้ เมื่อจบจากแม่โจ้ท่านสอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในฟิลิปปินส์ จนจบปริญญาตรี ปี พ.ศ. 2484 จึงกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่แม่โจ้ ตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนาน 6 ปี จากนั้นท่านไปลงสมัครผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง พอถึงปี พ.ศ. 2497 ท่านกลับเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ใหญ่ชั้นเอกของโรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ จวบจนกระทั่งได้เป็นอธิการบดีคนแรกของสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ถึง 2 สมัยท่านเป็นครูผู้สร้างและพัฒนาแม่โจ้ให้เจริญ เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการอาชีวเกษตรของประเทศไทย ปลดแอกข้อจำกัดของวงการอาชีวเกษตรในอดีต บุคคลผู้เป็นต้นแบบนักต่อสู้ เอาชนะอุปสรรค คนต้นแบบลูกแม่โจ้ ผู้ให้อมตะโอวาท “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” คติพจน์ประจำใจของลูกแม่โจ้จวบจนปัจจุบัน
30 ตุลาคม 2568     |      1702
ประธานมูลนิธิ People Foundation และคณะกรรมการ เข้าพบอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพื่อหารือและลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบัน
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี พร้อมด้วย คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ , รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ , รองคณบดีคณะศิลปศาสตร์ , รองคณบดีคณะผลิตกรรมการเกษตร ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Chuang Yoo-seok ประธานกรรมการ และคณะผู้แทนมูลนิธิ People Foundation ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสที่มาเยือนมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพื่อหารือและลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ในการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือทางด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม ภาษาเกาหลี
30 ตุลาคม 2568     |      1928
มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดงานแถลงข่าวการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน ระหว่าง วันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันแถลงถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ร่วมกับยังหวัดเชียงใหม่ เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่สำหรับการจัดประชุมวิชาการและนิทรรศการในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน เพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเปิดโอกาสให้เยาวชน ประชาชน นักวิชาการ ภาคเอกชน และผู้กำหนดนโยบายได้ตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของทรัพยากรไทย เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ตลอดจนเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ครบรอบ 90 ปี อันเป็นหมุดหมายแห่งความภาคภูมิใจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในงาน จะมีการจัดนิทรรศการพิเศษ "หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน อพ.สธ. มหาวิทยาลัยแม่โจ้" ภายใต้แนวคิด "รากแก้วมั่นคงมั่งคั่ง" สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยด้านการเกษตรที่เก่าแก่และมั่นคงของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 จากโรงเรียนครูประถมกสิกรรมภาคเหนือ จนพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปัจจุบันอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ "งานเกษตรแม่โจ้" มหกรรมต้นไม้ ผลิตภัณฑ์เกษตร สินค้าชุมชน ร้านอาหาร และการแสดงศิลปวัฒนธรรม จากสถานศึกษาและศิลปินรับเชิญ ตลอด 7 วัน 7 คืน นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการและนิทรรศการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 98 โรงเรียน การประชุมและนิทรรศการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น 38 หน่วยงาน การจัดนิทรรศการหน่วยงานสนองพระราชดำริฯ 126 หน่วยงาน การประชุมชมรมคณะปฏิบัติงานวิทยาการ อพ.สธ. และแปลงสาธิตและฐานการเรียนรู้ด้านการเกษตรด้าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธานในโครงการพระราชดำริต่าง ๆ โดยเฉพาะ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนแนวทาง "คาร์บอนคลีนอย่างยั่งยืน" ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพและความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะเข้ามาเยือนในทุกด้าน ทั้งด้านทรัพยากร การคมนาคม โรงแรม/ห้องพัก สถานที่จัดงานต่างๆ ที่สำคัญคือประชาชนมีมิตรไมตรีที่ดีและพร้อมต้อนรับผู้คนที่จะเข้ามาเยือน จึงขอให้มั่นใจว่าทุกกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ล้วนเกิดจากความตั้งใจของทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจและถือเป็นโอกาสอันที่ดีจะได้โชว์ความสำเร็จให้กับผู้คนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางด้วยข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ภาพ : เครือข่าาย MJUConnect
16 ตุลาคม 2568     |      21